วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นิตยา บุญสูงเนิน


นิตยา บุญสูงเนิน - เจ็บนิดเดียว

นิตยา บุญสูงเนิน - ปวดร้าว

นิตยา บุญสูงเนิน - ต่อเวลาให้ฉันสักนิด

นิตยา บุญสูงเนิน - รางวัลแห่งความภักดี

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คำถาม คำทวย ของอีสานเฮา

คำทวย
ความทวย : "กกบ่มีฮาก หมากบ่มีใบ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เครือเขาดำ อธิบายให้รู้จักกันชัดๆ คือเครือเขาดำนั้นเป็นเถาวัลย์เล็กๆ ชนิดหนึ่งชอบเกิดบนต้นไม้ ไม่มีรากลงดิน มีลูก (ผล) แต่ไม่มีใบ (เวลาตอบให้ตอบเฉพาะว่า เครือเขาดำ เท่านั้น)
ความทวย : "ไก่อีดำงำดิน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ก้อนขี้ควาย เพราะกองขี้ควายมันจะเป็นกองดำๆ คว่ำอยู่บนดิน (งำดิน = คว่ำอยู่บนดิน)
ความทวย : "ไก่อีกล้ากินหญ้าอ้อมโพน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ กรรไกรตัดผม หมายถึง กรรไกรตัดผมรอบศรีษะ (อ้อมโพน = รอบโคนจอมปลวก ในที่นี้หมายถึงศรีษะ)
ความทวย : "ไก่อีลายขี้ยายคันฮั้ว" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ขี้ตอก หมายถึง เศษไม้ไผ่ที่เหลาจากตอกแล้ว เขามักจะเอาไปวางตามรั้วบ้านสมัยก่อน
ความทวย : "กกอยู่ป่า ง่าอยู่บ้าน บานได้สู่แลง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ กระบอง หมายถึง ขี้ไต้ที่จุดไฟไว้ อธิบายให้รู้ชัดๆ คือ กก หมายถึงต้นยางที่เอายางของมันมาผสมกับไม้ผุ ห่อด้วยใบตองยางเช่นเดิม แล้วเอามาจุดไฟให้แสงสว่าง ง่า หมายถึง กิ่งไม้ ซึ่งก็คือที่วางขี้ไต้ สู่แลง คือทุกค่ำคืน
ความทวย : "ไก่อีลายตายอยู่นอกซาน คนเบิ้ดบ้านมาปาดบ่เบิ้ด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หินฝนพร้า หมายถึง คนที่มาลับมีด (ฝนพร้าที่หินเป้นร้อยคน หินก็ไม่หมด)
ความทวย : "ไก่อีลายตายอยู่ไฮ่อ้อย คนเป็นร้อยไปปาดบ่เบิ้ด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หินฝนพร้า หมายถึง หินลับมีด
ความทวย : "ไก่อีขาวซาวเกลือ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หน่อไม้ส้ม หมายถึง หน่อไม้ดอง
ความทวย : "ไก่อีขาวซาวปีก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ดอกซ้อน หมายถึง ดอกมะลิ
ความทวย : "ขนแยมแยะแปะกันมีแฮง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ขนตา หมายถึง เวลาหลับตานอน
ความทวย : "แข่วซากลาก ฮูดากหลุมแขน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ สุ่ม อธิบายว่า สุ่มนั้นที่ปากของมันจะมีริ้วไม้ไผ่ที่ใช้สานสุ่มแหลมๆ เรียงกันเป้นแถวคนอีสานเรียกว่า "แข่ว" (ฟัน) หรือ (เขี้ยวสุ่ม) ใช้ขังไก่ จับปลา เวลาใช้จะเอาปากลง เอาก้นขึ้น เวลาจะเอาของในสุ่มจะล้วงเอาทางดาก (ก้น) สุ่มนี้

ความทวย : "ข่ายหล่ายก่ายหี" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หางควายโตแม่
ความทวย : "ขาวคือฝ้าย ยายอยู่ทั่วฟ้า" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ดาว
ความทวย : "เค็งๆ ก้องในดงมิดมี่ คื่นๆ ก้องในบ้านบ่ได้ยิน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หมากเค็ง (ลูกหยี) และ หมากเขือคื่น (ขื่น) อธิบายได้ว่า เค็งๆ ก้องในดงมิดมี่ คือหมากเค็ง คื่นๆ ก้องในบ้านบ่ได้ยิน คือหมากเขือขื่น เค็งๆ กับคื่นๆ เป็นเพียงชื่อผลไม้ ไม่ใช่เสียงมันจึงเงียบและไม่ได้ยิน
ความทวย : "คนเบิ้ดบ้านกินน้ำสร้างเดียว เทียวทางเดียวบ่ให้เหยียบฮอยกัน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คนรับศีลจากพระ อธิบายว่า คือรับจากพระรูปเดียว ว่าความเดียวกัน และว่าพร้อมกันด้วย
ความทวย : "ควยบ่มีขากินหญ้าบ่เป็น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หลักฝังบ่แน่น (ของที่เคยแน่นมาก่อนแต่มาโยกหรือคลอนตอนหลัง คนอีสานเรียก "ควย" เช่น ฟันโยก คนอีสานจะเรียกว่า "แข่วควย" หลักที่ถูกโยกหรือคลอน คนอีสานจะเรียกว่า "หลักควย")
ความทวย : "งงงาพร้อมหูหางดูอาจงามเด สัตว์สิ่งนี้ควรค่ำค่าเมือง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ช้าง
ความทวย : "งุมหน้าให้ฟ้าเบิ่งก้น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ บักหอยโข่ง
ความทวย : "โงโค้งโน้งข่วมท่งข่วมภู" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ฮุ้งลงกินน้ำ
ความทวย : "จับหางขี้จ๊วก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คันโซ่ หมายถึง เครื่องมือวิดน้ำ ทำด้วยไม้ไผ่สาน ใช้แรงคนวิด
ความทวย : "จับใต้ฉีกแคกแดกเข้าในฮู" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ขนไก่แหย่หู อธิบายว่า สมัยก่อนคนนิยมเอาขนปีกไก่มาฉีกบางส่วนออก แล้วเอามาแหย่รูหู (แทนคอตตอนบัดในสมัยนี้นั่นเอง) ทั้งคัน ทั้งมันอย่าบอกใครเชียว
ความทวย : "จากไปบ่เห็นฮอย บ่ต้งคอยกลับมาเอง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ จิตใจของคน
ความทวย : "เจ้าบ่มีศาล สมภารบ่มีวัด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : "เจ้าบ่มีศาล คือ แม่น้ำเจ้าพระยา สมภารบ่มีวัด คือ การแถมสมภาร ในภาคอีสานเวลาพระเทศน์ เช่น กัณฑ์มัททรี เวลาพระขึ้นเสียงสูง ชาวบ้านจะหยอดเหรียญในบาตรทำให้เกิดเสียงดังพร้อมกับร้องว่า "นิมนต์ข้าน้อย" การกระทำเช่นนี้เรียกว่า แถมสมภาร
ความทวย : "ว้างอีเอ่นเล่นน้ำกลางวัง ทางหลังมันเปียก ทางท้องมันบ่เปียก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เฮือน หมายถึง เรือนอยู่อาสัยของเรานี้เอง เวลาฝนตกใส่หลังคาจะเปียก แต่ท้องบ้านคือใต้ถุนบ้านใต้ไม้กระดานปูไม่เปียก
ความทวย : "ซ้างขึ้นพลูตีหูปั๊วๆ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ฟืม หมายถึง ฟืมเวลาทอผ้า โดยเอากี่เป็นโรงทอ
ความทวย : "ซ้างขึ้นภู หักไว้หักไว้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ไหวาก คือไหปากวิ่นนั่นเอง
ความทวย : "ใช้แล้วใหม่ บ่ใช้แล้วเก่า" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หนทาง คือ หนทางนั้นถ้าเราเทียวอยู่บ่อยๆ มันก็ไม่รก แต่ถ้าเราไม่เทียวหรือไม่ใช้เส้นทางนั้น มันก็จะรก
ความทวย : "หญิงเห็นกลาย ชายเห็นชายเด้า เข้าบ่เข้าคลำเบิ่งเอา" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ผู้ชายฝนมีดหรือฝนพร้า อธิบายเวลาลับมีด-พร้า ผู้ชายจะนั่งยองๆ ผลักมีดไปตามหินและดึงกลับเป็นจังหวะๆ เอวก็จะโยกตัวไปตามจังหวะผลักและดึงกลับนั้น
ความทวย : "ญาท่านบ่เว้า ญาเจ้าบ่แสดง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ พระพุทธรูป
ความทวย : "หญ้าผีบ้าบ่ถูกกะติด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หญ้าคา
ความทวย : "ดำจั่งหมี ตีก้นจั่งกัด คำจั่งหมัดสนเคราทางก้น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ สิ่ว และ เข็มเย็บผ้า (จั่ง = คล้าย, สนเครา = สนตะพาย)
ความทวย : "ดังบ่มีฮู อยู่ป่ากินสัตว์" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เสือ (ดัง = จมูก, ฮู = รู)
ความทวย : "ดังอยู่ดิน บินบนอยู่เทิงฟ้า" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เฮือหอ (ดัง = เสียงดัง, เฮือหอ = เรือเหาะหรือเครื่องบิน)
ความทวย : "ต้นมันท่อลำเทียน หมากมันเลียนซ่ายล่าย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ต้นข้าว อธิบายได้ว่า ต้นมันเล็กๆ แต่หมาก (เมล็ด) มันจะเรียงเป็นรวงยาว
ความทวย : "ตักกะเต็ม บ่ตักกะเต็ม" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หมากพร้าว อธิบายว่า น้ำมะพร้าวไม่มีใครไปตักใส่ไว้ มันก็เต็มอยู่อย่างนั้น
ความทวย : "ตาเดียว หลายหน่อ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ตากล้า อธิบายว่า แปลงนาที่หว่านข้าวเพื่อเอาต้นกล้าไปดำนานั้น ชาวอีสานเรียก ตากล้า ตากล้าแปลงเดียวนั้นจะมีหน่อข้าวที่หว่านลงไปงอกขึ้น นับหน่อไม่ได้
ความทวย : "โตอยู่นา ตาอยู่บ้าน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ปูกับเหล็กตาปู อธิบายว่า โต (ตัว) อยู่นา (ท้องนา) คือ ปู ตาอยู่บ้านคือเหล็กตาปู
ความทวย : "ตกปุ๊ก ข้างซี่บ่ให้ว่าขี้ช้าง ยื่อแย่งแขนงเดียว" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ข้าวเหนียวแดง
ความทวย : "ตักบ่เต็ม" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ต้นบก อธิบายว่า บก ภาษาอีสานคือเหือดแห้ง
ความทวย : "ตากบ่แห้ง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ซุ่ม ปัญหาเชาวว์ หมายถึงความซุ่มที่ไม่แห้ง (ในที่นี้จะหมายถึง ซุ่มขังไก่ เพราะในสำเนียงคนอีสาน ซุ่มกับสุ่ม ออกเสียงเหมือนกัน)
ความทวย : "โตใหญ่ตาน้อย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ช้าง
ความทวย : "ตุ้มกลางดง โค่งโน่งกลางเหล่า เค้าเม้ากลางเฮือน แอ๋แอ่นกลางซาน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : จุ้มกลางดง คือ เสียงปืน, โค่งโน่งกลางเหล่า คือ คันแฮ้ว เค้าเม้ากลางเฮือน คือ ใต้กระบอง แอ๋แอ่นกลางซาน คือ ไม้คานหาบของ
ความทวย : "ตาบ่เน่า เก่าบ่เป็น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ความดีที่คนทำไว้
ความทวย : "แถนบ่เว้า หมู่เจ้ากะให้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ บั้งไฟ (แถน = พระอินทร์)
ความทวย : "ไถบ่มีฮอย แต่ว่าจ่อยเบิ้ดโต" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ไถเงิน (ฮอย = รอย, จ่อย = ผอม, เบิ้ดโต = ทั่วทั้งตัว)
ความทวย : "เถียงอีหยัง บังแดดบ่ได้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คนเถียงกัน กระท่อมนา คนอีสานเรียกว่า "เถียงนา" คนทะเลาะกัน คนอีสานเรียกว่า "เถียงกัน" (อีหยัง = คืออะไร)
ความทวย : "ถมบ่เต็ม" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ บก คำตอบนี้เป็นคำตอบปัญหาเชาว์เพราะถ้ายังมีคำว่า "บก" หรือพร่องอยู่มันก็ต้องไม่มีคำว่าเต็ม
ความทวย : "ถิ่มใส่น้ำดังโป๊ก ถิ่มใส่บกดังถ่วน ถิ่มใส่ป่าหญ้าดังป้อง ดังก้องทั่วเมือง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ความดีคนดี อันว่าความดีคนดีนั้นโบราณท่านว่าตกน้ำไม่ไหลคือทิ้งลงน้ำจะให้จมมันก็ไม่จม ใช้ไม้แข็งกะจะให้ตาย ให้แตก มันก็ไม่ตาย เพราะมันมีฐานมวลชนรองรับเหมือนทิ้งลงน้ำ ยกให้มวลชนไป เหมือนทิ้งเข้าป่าหญ้าป้อง มันก็ยิ่งดังระเบิดเมือง
ความทวย : "ทางบ่มีเส้น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ทางสวรรค์ ทางนิพพาน

ความทวย : "ทิศบ่มีทาง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ทิศสึกใหม่
ความทวย : "ท้องอยู่หลัง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หม้อกะทะ
ความทวย : "เทิงกะดำ หลุ่มกะดำ มักตำกันเวลากลางคืน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ขนตา คนส่วนใหญ่ชอบนอนเวลากลางคืน เวลานอนจะหลับตา ขนตาดำข้างล่างกับขนตาดำข้างบนมันจะปิดทับกัน หรือมาชนกันอยู่ คนอีสานเรียกว่า "ตำ"
ความทวย : "ธงบ่มีสัญชาติ ปราชญ์เอามาจาระนัย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ธงบุญผะเหวด
ความทวย : "ธรรมอันใด๋หมุนไปคือล้อ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ธรรมจักร
ความทวย : "ธรรมอยู่ในคัมภีร์ แต่ว่าอยู่สู่หม่อง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ธรรมดา
ความทวย : "เนื้อจิ้มเนื้อ แซบเกินเชื่ออีหลี" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เด็กน้อยดูดนมแม่
ความทวย : "น้อยๆ มันนุ่งผ้าเหลือง ใหญ่ขึ้นมามันนุ่งผ้าเขียว" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ไม้ไผ่
ความทวย : "น้ำบ่มีฝน คนกินกะบ่ได้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ น้ำหมอก หรือน้ำค้าง
ความทวย : "นกกดตาแดง น้ำแห้งกะตาย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ตะเกียงเบิ๊ดน้ำมัน
ความทวย : "นกโก่นโต่น สี้ก้นแม่เจ้าของ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ลูกกุญแจ (โก่นโต่น = การเปลือยกาย)
ความทวย : "นาหนองน้อย บ่มีจอกบ่มีแหน มีปลาซิวหัวแป โตหนึ่งอยู่หั่น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ปากกับลิ้น (หัวแป = หัวแบน)
ความทวย : "นอนหงายให้เขาขี่ เอามือตี่ยัดใส่" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เกิบ (ตี่ = คลี่ออก หรือแยกออก)
ความทวย : "บ่มีขาขึ้นกกไม้ บ่มีใส้ฮ้องดัง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ งู และ แมงง่วง (เรไร)
ความทวย : "บ่มีตาขึ้นต้นไม้ บ่มีไส้กินคน บ่มีขนนอนบวก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เครือไม้ (เถาวัลย์) ยุง และ ปลิง

ความทวย : "บักน้อยๆ แก่ไส้ลอดขอน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เข็ม อธิบายว่า เข็มที่สอดด้ายเวลาเย็บผ้า ขอนนั้นคือ ดูกผ้า
ความทวย : "บักหัวโล่นโตนน้ำแต่เดิ๊ก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ กระบวยตักน้ำ (เดิ๊ก = ดึก)
ความทวย : "ใบมันท่อแป้นกี่ หมากมันจี่กินกะเป็น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ กกกล้วย (แป้นกี่ = ไม้กระดานรองนั่งทอผ้า, กี่คือที่ทอผ้าของคนอีสาน)
ความทวย : "บานแพ่แว่ มีตั้งแต่ของดี" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เปิดหนังสืออ่าน
ความทวย : "บักน้อยๆ ไปค้าบ่เห็นฮอย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เฮือ เรือไปที่ไหนจะไม่มีรอยเหลือได้
ความทวย : "ป้องกะหลิ่วกิ่วกลาง ขึ้นกกยูงขึ้นกกยางกะได้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ มดแดง อธิบายว่า มดแดงมันตัวเล็กๆ คอดกิ่วกลางตัว ขึ้นต้นยูง ขึ้นต้นยางต้นโตๆ ก็ขึ้นได้คล่อง
ความทวย : "ปลาอีหยังตายแล้วกะยังถั่ง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : ปลาแดก
ความทวย : "ปลาหยังปลาบ่มีเลือด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ปลาท่องโก๋
ความทวย : "เปิดสิ่นในวัด บ่ขัดศีลธรรม" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เปิดห่อคัมภีร์มาเรียน อธิบายว่า สมัยก่อนหนังสือใบลาน โบราณจารย์ท่านจะเอาผ้าซิ่นไหมที่คนยังไม่ได้ใช้มาห่อไว้
ความทวย : "ไปท่อไร่นา มาท่อก้อนเส้า" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ตึกแหกับตุ้มแห (ทอดแหกับตะล่อมเข้า)
ความทวย : "ปลดบ่หลุด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ข้อง หมายถึง ข้องใส่ปลาที่ชาวอีสานทำขึ้น แต่คำตอบนี้เป็นเชาว์ปัญญา เพราะข้องก็คือติดๆ อย่างไม่หลุด ถ้าหลุดจะเรียกว่า ข้อง ได้อย่างไร
ความทวย : "ผู้อยู่โคกปั้นถ้วย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ มดลิ้น อธิบายว่า มดเวลามันขุดรูมันจะเอาดินมาวางรอบๆ รู กองดินนั้นมีลักษณะเหมือนถ้วย
ความทวย : "ผู้อยู่ห้วยสานมอง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ แมงย่างซิ้น อธิบายว่า เป็นแมลงชนิดหนึ่งคล้ายแมงมุม แต่ตัวใหญ่กว่าและยาวกว่า ลำตัวไม่มีขน ชอบทำตาข่ายดักอาหารกิน คนอีสานชอบกินแมลงชนิดนี้ด้วย

ความทวย : "ผู้อยู่หนองกองก้น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ บักหอย หอยโข่งหรือหอยอะไรก็ตามเวลามันจะไปมันจะคว่ำหน้าลง และยกก้นขึ้นเคลื่อนตัวไป

ความทวย : "ผักกินบ่ได้ ไม้กินบ่เป็น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ผักตู ผักตูคือประตู บางแห่งออกเสียงเป็นผักกะตู
ความทวย :
"ผู้เฮ็ดบ่ได้ใช้ ผู้ใช้บ่ได้เฮ็ด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ โลงผี
ความทวย : "ฝาอีหยังหย่างไปกะได้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ปลาฝา
ความทวย : "ฝนบ่คม มีแต่ลมกับน้ำ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ฝนตก
ความทวย : "เฝ้าบ่หนี ผีบ่ย่าน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ อยู่ยาม
ความทวย : "พระฤาษีอยู่ในถ้ำ ฝนตกฮำปีละเทื่อ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ พระพุทธรูปยามสงกรานต์ อธิบายว่า พระพุทธรูปปีหนึ่งเขาจะเอาลงสรงน้ำครั้งหนึ่ง
ความทวย : "พระบ่ได้บวช บ่ต้องสวดกะนับถือ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ พระเจ้าแผ่นดิน
ความทวย : "พรหมสองหน้า ผู้ข้าเกิดนำ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ พ่อกับแม่
ความทวย : "พีเคิ่งกลาง หางหัวมันส่วย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ งูกินเขียด (พีเคิ่งกลาง = อ้วนตรงกลาง, มันส่วย = มันเรียวปลาย)
ความทวย : "พิศหนู มีหูอยู่ปาก พิศนาคมีปากอยู่ท้อง พิศหล่องหง่องมีท้องอยู่หลัง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ กระทอ, มีดสะนาก และ หม้อกระทะ อธิบายว่า พิศหนู มีหูอยู่ปากคือ กระทอ พิศนาคมีปากอยู่ท้อง คือ มีดปาดหมากของคนแก่สมัยโบราณ (บางแห่งเรียกมีดสะนาก) พิศหล่องหง่องมีท้องอยู่หลัง คือหม้อกระทะ
(พิศหนูให้อ่านออกเสียงว่าพิดสะหนู, พิศนาค อ่านว่า พิดสะนาก)
ความทวย : "ไฟไหม้ป่าบ่ไหม้หมกเห็ด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ โพนปลวก อธิบายว่า เวลาไฟไหม้ป่า โคลนปลวกหรือจอมปลวกจะไม่ถูกไหม้ด้วย

ความทวย : "ไฟไหม้ดัง บ่ไหม้ขี้มูก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คนสูบยา เวลาคนสูบยา (บุหรี่) จะเอาควันออกทางจมูก (ดัง = จมูก)
ความทวย : "ฟ้าวบ่ไว ไฟบ่ลุก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : ฟ้าวบ่ไว คือ ช้า และไฟบ่ลุก คือ ไฟฟ้า (ฟ้าว = รีบเร่ง)

ความทวย : "ภูเขาสูงบ่มีบ่อนตั้ง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ โหง่นขี้ฝ่า (บ่อน = ที่, โหง่น = กลุ่มที่ตั้งขึ้นดำทะมึน, ขี้ฝ่า = ก้อนเมฆ)
ความทวย : "ภาชนะบ่มีแกง ภาแลงบ่มีข้าว" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เดือนเคิ่งซีก (พระจันทร์ครึ่งซีก)
ความทวย : "ภูต่ำคนปั้น ภูเป็นชั้นคนทำ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คันแทนา กับ ตึกแถว (คันแทนา คือ คันนา)
ความทวย : "แม่มันฮ้องอีอี ลูกมันพีมั่นลั่น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หลากับไนเข็นฝ้าย หลาคือเครื่องมือปั่นฝ้ายให้เป็นเส้นใยเพื่อนำมาทอ ผ้าสมัยโบราณเวลาปั่นเสียงมันจะดัง อี อี หรือ อือ อือ ปั่นให้เป็นเส้น แล้วเขาก็จะม้วนเก็บไว้ที่เหล็กตัวที่หมุนให้ฝ้ายเป้นเส้น เหล็กนี้เขาเรียกกันว่า เหล็กไน ม้วนเข้าไปเรื่อยๆ ฝ้ายที่ม้วนเข้าไปในเหล็กไนก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ การที่มันโตขึ้นนี้แหละที่เขาเรียกกันว่า พี ในภาษาอีสาน
(ฮ้อง = ร้อง, พีหรือภี = อ้วน, มั่นลั่น เป็นกิริยาวิเศษของพี = อ้วนเนื้อแน่น)
ความทวย : "ม้าอี่ขาวหางยาวต้วยก้น บ่ให้ว่าต้นกล้วย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เด็กน้อยเอาขี้มูกเช็ดก้น สมัยก่อนเสื้อผ้าที่จะใส่ก็หายาก เด็กเวลาเป็นหวัดขี้มูกไหลก็จะเช็ดด้วยหลังมือ แล้วเอาไปเช็ดก้นตัวเอง (ต้วยก้น = เอามาทาที่ก้น)
ความทวย : "มีน้ำบ่มีปลา" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ น้ำบักพร้าว
ความทวย : "ยามมื้อเช้าเก็บเข้าบุงหวาย ยามมื้อแลงยายออกยายออก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ดาวเทิงฟ้า ดวงดาวบนท้องฟ้าเวลากลางคืนจึงเห็น พอรุ่งเช้าจะไม่เห็น (ยามมื้อแลง = ตอนเย็น)
ความทวย : "ยืนต่ำกว่านั่ง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หมา (สุนัข)
ความทวย : "อยากให้ยาวแล้วปั่น อยากให้สั้นแล้วต่อ" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เข็นฝ้าย และ ต่อยา อธิบายว่า การเข็นฝ้ายให้เป็นเส้นโดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "หลา" ชาวอีสานเรียกเข็นฝ้าย การเข็นฝ้ายจะได้เส้นยาวออกไปเรื่อยๆ การต่อยา (จุดบุหรี่สูบ) จะทำให้ยา (บุหรี่) สั้นลงเรื่อยๆ

ความทวย : "ยาวคาคืบ ยัดเข้าหลืบฮูหนัง ทั่งไปทั่งมา น้ำแบ้นไหลออก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คนสีฟัน (แปรงฟัน) (คาคืบ = แค่คืบ, หลืบ = ซอกหรือเงื้อม, ฮูหนัง = รูหนัง, ทั่งไป = ชักเข้า, ทั่งมา = ชักออก, น้ำแบ้น = น้ำอสุจิ (แต่ในที่นี้หมายถึงฟองน้ำของยาสีฟันที่ไหลออกจากปาก))
ความทวย : "ลงบ่เห็นฮอย ถอยบ่เห็นส้น" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เฮือ (เรือ)
ความทวย : "เลือดบ่ดีย้อมสีบ่แดง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คนชั่วที่ลื่นความพ่อแม่ (ลื่นความ = ไม่เชื่อฟัง)
ความทวย : "เลียทางปากเอาของใกล้ดากใส่กัน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หมาสิเซิงกัน (ดาก = ก้น, สิเซิงกัน = จะสัดกัน)
ความทวย : "ลมบ่มีฝน ฝนบ่มีหยาด" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ :
ลมบ่มีฝน คือ ลมปาก ฝนบ่มีหยาด คือ ฝนพร้า (ลับมีด)
ความทวย : "ศิษย์บ่มีครู ผักตูบ่มีบาน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : ศิษย์บ่มีครู คือ คนเฮียน (เรียน) ด้วยตนเอง ผักตูบ่มีบาน คือ ผักตูโขง (ประตูหน้าวัด)
ความทวย : "ศาลาบ่อยู่กลางบ้าน คนย่านบ่อยากไป" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ศาลาพักศพ (ย่าน = กลัว)
ความทวย : "ศาลาบ่อยู่วัด แต่ว่าจัดไว้อยู่กลางเมือง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ศาลากลางจังหวัด
ความทวย : "สุกอยู่ดินกากินบ่ได้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ถ่านไฟแดงๆ
ความทวย : "สุกอยู่ฟ้า กายื้อบ่เถิง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ตาเว็น (ดวงตะวัน)
ความทวย : "สัตว์สี่ขากินสัตว์ขาเดียว สัตว์หัวเขียวกินสัตว์หน้าคว่ำ เต่ากินเห็ดเป็ดกินหอย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เต่ากินเห็ด และ เป็ดกินหอย (พึงสังเกตว่าปริศนาคำทายนี้แฝงคำตอบไว้ด้วยแล้ว ถ้าช่างสังเกตก็จะทราบทันที)
ความทวย : "เสียกแพ้แว้ แหย่เข้าฮูหนัง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ยาดม (เสียกแพ้แว้ = ลักษณะของหลอดยาดมที่เปิดฝาออกแล้ว)
ความทวย : "เสียกข่านหล่าน จำกั่นจำบัก ยกขาขึ้นผู้อยู่หลุ่มมีแฮง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คนกั้งคันยู (เสียกข่านหล่าน = ลักษณะของการกางร่ม, จำกั่นจำบัก = ออกไปจนสุด, ร่ม ภาษาอีสานเรียกว่า คันยู)
ความทวย : "ส่วยคือใบพลู มีฮูอยู่กลาง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หูควาย
ความทวย : "สามขาตั้งธรณีแหยแหย่ง อ้าปากขึ้นเห็นช้างคาบงา" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ก้อนเส้า หม้อนึ่ง หวดข้าว (การนึ่งข้าวเหนียวจะตั้งหม้อนึ่งบนเตาใช้หินก้อนเส้าวางสามก้อน แล้วนำหวดบรรจุข้าวเหนียววางบนหม้อนึ่งอีกที)

ความทวย : "ห้อยอยู่หลักบ่ตักกะเต็ม" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ บักพร้าว (มะพร้าวไม่มีใครเอาน้ำไปใส่มัน มันก็มีน้ำเป็นของตัวเอง)
ความทวย : "หายบ่เห็น เฮ็ดให้คนเป็นได้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หายใจ (เฮ็ด = ทำ)
ความทวย : "หูอยู่ปาก ดากอยู่ท้อง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ หม้อกะทะ (ดาก = ก้น)
ความทวย : "อุดหลูดปูดหลูดออก ปูดหลูดเข้าเอาหัวตำ ผู้หญิงมักทำยามมื้อเช้ามื้อแลง" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ สากกระเบือ (ยามมื้อแลง = ตอนเย็น)
ความทวย : "อ้อยมีรสหวาน เฮ็ดน้ำตาลบ่ได้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เครืออ้อยช้าง
ความทวย : "ฮ้อยคนเอิ้นบ่มีเพรียก แสนคนเฮียกบ่มีขาน" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คนตาย
ความทวย : "อุ้มแล้วไห้ ปลงไว้แล้วเซา" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ คนเป่าแคน
ความทวย : "ฮากแดงๆ ไปแทงตาฝั่ง ฮากมันหยั่งเถิงเมืองนคร" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ แสงตาเว็น (แสงตะวัน) (ฮาก = ราก, ตาฝั่ง = ฝั่งน้ำ, เถิง = ถึง)
ความทวย : "ฮูเนินคือฮูคัน ฮูซันคือฮูลูก" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ ฮูคราด (คราด คืออุปกรณ์ปรับดินดำนาหรือก่อนปลูกพืช)
ความทวย : "เฮือบ่มีน้ำ ไปได้ทุกก้ำทุกภาย" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เฮือหอ (เครื่องบิน)
ความทวย : "ฮอยใหญ่กว่าโต เอาโซ่ล่ามไว้" เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ : คือ เฮือ

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อยากฟังคำนั้นตลอดไป


ศิลปิน : คริสติน่า อากีล่าร์
อัลบั้ม : Paradise
เพลง : อยากฟังคำนั้นตลอดไป

อยากฟังคำนั้นตลอดไ...

ทำไมคุณชอบเอ่ยคำๆนั้น มันทำให้สั่นไปทั้งหัวใจ
ใครเขาว้าวุ่นคุณรู้บ้างไหม ทำไมชอบทำอย่างนั้น

* เป็นคำที่บอกออกมาจากใจ หรือแค่มักง่ายพูดไปวันๆ
รู้ไหมว่าโลกมันไหวสะท้าน ทุกครั้งที่ฉันได้ฟัง

** อย่างคุณฉันรู้ว่ามันคงไม่ยาก หากจะบอกว่ารักซักร้อยพันครั้ง
แต่ฉันคนนี้ครั้งเดียวที่ได้ฟัง ก็ฝังหัวใจไปแสนนาน

*** สงสารกันหน่อยหากคณไม่จริงจัง เกรงใจกันบ้างกับคนช่างฝัน
แต่ถ้าบังเอิญเราฝันตรงกัน (ช่วยบอกคำนั้นอีกซักที/อยากฟังคำนั้นตลอดไป)

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

อรพรรณ พานทอง


อรพรรณ_-_โดน.mp3



อรพรรณ พานทอง
ชื่อจริง อรพรรณ พานทอง
ชื่อเล่น นิด
เกิด 13 สิงหาคม พ.ศ. 2510 (อายุ 41 ปี)
คู่สมรส สราวุธ วัชรพล
ชื่ออื่น อรพรรณ วัชรพล
อาชีพ นักแสดง นักร้อง
อรพรรณ พานทอง ชื่อเล่น นิด (13 สิงหาคม พ.ศ. 2510 - ) นักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงจากการรับบทในภาพยนตร์รักวัยรุ่น ของศุภักษร ช่วงปี พ.ศ. 2525 - 2532 มีเอกลักษณ์คือหน้าตาน่ารัก ฟันกระต่าย และมีลักยิ้ม (ปัจจุบัน ได้ทำศัลยกรรมตกแต่งฟัน จนเป็นปกติแล้ว)
อรพรรณ พานทอง จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีศรีอยุธยา การศึกษาจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าสู่วงการจากการชักนำของศุภักษร โดยเล่นภาพยนตร์สั้นสำหรับประกวดทางโทรทัศน์ เรื่อง เธอกับฉัน [1] และเป็นนางแบบถ่ายแฟชั่นในนิตยสารวัยรุ่น จากนั้นได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง อาจารย์อ้วนสติเฟื่อง (2525) คู่กับ จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก และได้แสดงภาพยนตร์วัยรุ่นต่อมาอีกหลายเรื่อง เรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ วันวานยังหวานอยู่ (2526) และ วันนี้ยังมีเธอ (2526) คู่กับอรรถพล ประเสริฐยิ่ง และวงศกร รัศมิฑัต สองนักร้องนำจากวงแมคอินทอช จากนั้นได้หันไปแสดงละครโทรทัศน์
ภายหลังจากอรพรรณ พานทอง สมรสกับ สราวุธ วัชรพล เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เธอได้ออกจากวงการแสดง และผันไปเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ก่อตั้งบริษัทโพลีพลัส ผู้จัดรายการโทรทัศน์ และละครโทรทัศน์ ปัจจุบัน อรพรรณดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัดและมีบริษัทในเครือครอบคลุม ตั้งแต่ธุรกิจพีอาร์ จัดงานอีเวนต์ ออกาไนเซอร์ ในนามโพลีพลัส ออกาไนเซอร์ มีงานผลิตรายการถ่ายทำในสตูดิโอ ในนามโพลีพลัส สตูดิโอ, งานผลิตสิ่งพิมพ์ ในนามโพลีพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด เจ้าของ นิตยสารสังคมบันเทิง Oops! ที่นำเสนอข่าวบันเทิง และยังมีบริษัท โพลีพลัส เอ็กซ์ตร้า จำกัด เพื่อเป็น Production House รับผลิตงานด้านโทรทัศน์ทุกประเภทให้กับองค์กรอื่นๆ อาทิ งานโฆษณาต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันรายการโทรทัศน์ของโพลีพลัสได้แก่ รายการ VIP, รักเอย, วันวานยังหวานอยู่ , Oops! on air, ดาวกระจาย, ดาวกระจาย สุดสัปดาห์ , ศึก 12 ราศี และ ตลาดสดสนามเป้า[2]
อรพรรณ พานทอง เคยมีผลงานร้องเพลง อัลบั้ม "ตัวนิด...นิด" สังกัดแกรมมี่
ภาพยนตร์
อาจารย์อ้วนสติเฟื่อง (2525)
กุนซืออ้วน (2525)
วันวานยังหวานอยู่ (2526)
วันนี้ยังมีเธอ (2526)
แกงค์ไอติม (2526)
ป.ล. ผมรักคุณ (2527)
สวัสดีความรัก (2528)
เรารักกันนะที่ปักกิ่ง (2530)
เธอกับเขา และรักของเรา (2530)
พิศวาส (หรือ รากแก้ว) (2530)
คนใจสู้ (2531)

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สุชาติ ชวางกูร


สุชาติ ชวางกูร เป็นนักร้องชายคนแรกที่ได้รับรางวัลจากการประกวดร้องเพลงในงาน Asia Amateur Singing Contest (AASC) ที่ฮ่องกง มีผลงานอัลบั้ม 5 ชุดแรกกับบริษัท EMI (Thailand) คือชุดสายธาร, ฝันรัก, Live in Concert, ไกลรัก และดั่งเม็ดทราย ซึ่งมีเพลงที่ได้รับความนิยมอยู่มากมาย เช่น เพลง ด้วยรัก, ภวังค์รัก, ดวงฤดี, ฝากรักมากับเสียงเพลง, คืนนี้มีเพียงดาว, ฝันรัก, เมื่อใจฉันมีเธอ, ไกลรัก, สตรี, เพื่อน, เหมันต์ที่ผ่านพ้นไป, ดั่งเม็ดทราย และใจรัก
จากนั้นได้ออกอัลบั้มกับบริษัท CBS SONY (Thailand) อีก 2 ชุด คืออัลบั้ม เมื่อความรักเรียกหา และจากฉันถึงเธอ หลังจากนันเขาก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างที่ศึกษาอยู่ก็ได้ออกอัลบั้มอีก 6 ชุด กับบริษัทรถไฟดนตรี คือ เพราะขอบฟ้ากว้าง, Love Letters, หัวใจใกล้กัน, ลูกทุ่งกรุงเทพ 1 และ 2 และพลิ้วไหวในสายลม
ทางด้านผลงานการแสดงภาพยนตร์ ในฐานะผู้แสดงนำฝ่ายชาย 4 เรื่องคือ ขอแค่คิดถึง กำกับการแสดงโดยหม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย, ดั่งเม็ดทราย กำกับการแสดงโดย สรวงสุดา ชลลัมพี ซึ่งทั้งสองเรื่องแสดงคู่กับ ใหม่ เจริญปุระ และเรื่อง พิศวาส แสดงคู่กับ อรพรรณ วัชรพล (พานทอง) กำกับการแสดงโดย สรวงสุดา ชลลัมภีร์ ส่วนเรื่อง ยิ้ม แสดงคู่กับปิยะนุช นาคคง ซึ่งกำกับการแสดงโดย คุณฉลอง ภักดีวิจิตร
สุชาติ ชวางกูร สำเร็จปริญญาโทถึง 3 สาขาคือ Master of International Management (MIM ) จาก University of Denver, Master of Science in Finance (MS-Finance) จาก University of Colorado และ Master of Science in Economics (MS-Economics) จาก State University of New York ภายหลังสุชาติ ชวางกูร กลับมาอยู่เมืองไทย นอกจากเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ที่เอแบค ยังเป็นวิทยาการสถาบัน TDI
ปัจจุบัน รับราชการเป็นข้าราชการประจำกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ในการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 สุชาติได้เข้าร่วมด้วย โดยขึ้นเวทีร้องเพลงหลายต่อหลายครั้ง ต่อมาเมื่อการชุมนุมจบลงได้ร่วมงานกับทาง ASTV โดยเป็นผู้ประกาศข่าวเช้า
Get this widget | Track details | eSnips Social DNA

ผลงานเพลง
2526 สายธาร
2526 (ปลายปี) ฝันรัก
2527 ไกลรัก
2528 ดั่งเม็ดทราย
2529 เมื่อความรักเรียกหา
2530 จากฉันถึงเธอ
2531 เพราะขอบฟ้ากว้าง

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ใหม่ เจริญปุระ

ข้อมูลพื้นฐาน

ชื่อจริง : สิริวิมล เจริญปุระ
ชื่อเล่น : ใหม่
ฉายา : แหบเสน่ห์
วันเกิด : 5 มกราคม พ.ศ. 2512
แนวเพลง : ป็อป, ป็อปร็อก, ลูกทุ่ง
อาชีพ : นักร้อง, นักแสดง
ค่าย : GMM Grammy
055 - กลับดึก - ให...


ประวัติ
ใหม่ เจริญปุระ เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของนาย สุรินทร์ เจริญปุระ (รุจน์ รณภพ) และนางวินีย์ สนธิกุล มีพี่สาว 3 คน คือ เวณิก เจริญปุระ (แมว) พลอย เจริญปุระ (กุ้ง) วิภาวี เจริญปุระ (ปู) มีน้องสาวต่างมารดาคือ ทราย เจริญปุระ ใหม่จบไฮสคูลจาก Farringtons School ประเทศอังกฤษ และอยู่ที่ประเทศอังกฤษ กว่า 5 ปี ก็กลับเมืองไทย แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ "ขอแค่คิดถึง" ด้วยวัย 20 ปี ใช้ชื่อในการแสดงว่า "ใหม่ สิริวิมล" และเรื่องต่อมา คือ "ดวงยิหวาซึ่งเธอได้รับรางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี ในปี พ.ศ. 2528 สร้างชื่อของเธอ ให้เป็นที่รู้จัก อย่างกว้างขวางในวงการบันเทิง
งานเพลง
ใหม่ เจริญปุระได้เข้ามาเป็นนักร้อง อัลบั้มแรก "ไม้ม้วน" ออกมาในปี 2532 ในแนวดนตรีป๊อปร็อก เสียงแหบห้าวแต่ทรงพลัง และการถ่ายทอดอารมณ์ และได้รับฉายาว่า "แหบเสน่ห์" ยอดขายอัลบั้มแรกของเธอ สูงกว่า 8 แสนตลับในเวลาไม่นาน และในปีเดียวกัน เธอได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากนิตยสารสีสัน และครองตำแหน่งนักร้อง ยอดนิยมอันดับ 1 นานถึง 2 เดือนติดต่อกันจากรายการ สตาร์ มิวสิก
อัลบั้ม "ไม้ขีดไฟ" ก็ตามออกมา ด้วยแนวเพลง ที่หนักแน่นและชัดเจน ในชุดที่2 มีเพลงดังเช่น เพลง "ควักหัวใจ" "อยากจะร้องไห้" และ "ฟังซิฟัง" จากนั้นเธอได้หยุดงานเพลง เพื่อกลับไปทุ่มเทเวลา ให้กับการแสดงละคร ภาพยนตร์ และได้ร้อง เพลงประกอบโฆษณา รถยนต์โตโยต้า จนทำให้เพลง "รักแล้ว…รักเลย"


อัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อ"ความลับสุดขอบฟ้า" เธอเปิดอัลบั้มนี้ด้วยเพลง "เสียใจได้ยินไหม" มิวสิกวิดีโอที่บินไปถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ ถึงประเทศอียิปต์ และได้เผยแพร่ชื่อเสียง ไปยังต่างประเทศ โดยผ่านทางช่อง MTV ASIA ผลตอบรับต่ออัลบั้มนี้ของเธอ ด้วยยอดขาย 5 แสนตลับในเวลาสิบวัน และทำยอดได้กว่า 2.5 ล้านตลับในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเป็นนักร้องหญิงไทยคนแรกที่มียอดขายสูงกว่า 2 ล้านตลับ
หลังจากหายไป 2 ปี ได้ออกอัลบั้ม "ผีเสื้อกับพายุ" ซึ่งมีเพลงดังๆ อาทิ ขอร้อง สัญญา ฯลฯ


ปี 2540 ใหม่ออกอัลบั้มอีกชุดชื่อ "ชีวิตใหม่" ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 6 ของเธอ ครั้งนี้เธอมาพร้อมกับภาพใหม่ เพลงในอัลบั้มนี้ดูจะเบาลงบ้าง มีเพลงอย่าง เพลง "งงงง" "เรียนรู้" "สบายใจ" "ฟ้ายังสวย" และตบท้ายด้วยเพลง "ขอ" ที่เธอเป็นคนแต่ง เนื้อร้องเอง
ปี 2541 อัลบั้ม "แผลงฤทธิ์" ของเธอได้มีโปรดิวเซอร์ฝีมือดีชาวอิตาเลียน ชื่อบรูโน บรูญาโน แนวป๊อปร็อกประจำตัวของ "ใหม่" ให้เข้ากับแนว ร็อกแอนด์โรล ยุคทศวรรษที่ 70 เธอก็ได้ฝากผลงานพิเศษไว้ ในอัลบั้ม "Rock for Life" ชุด 1-2 ซึ่งเป็นการนำเพลงเพื่อชีวิตมาเรียบเรียง และร้องใหม่ โดยศิลปินดังหลายคน นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในศิลปิน ที่ร่วมร้องเพลงในอัลบั้ม "ลงเอย" พี่น้องร้องเพลง อัสนี-วสันต์
ปี 2544 ใหม่ได้รวมตัวกับพี่น้องและผองเพื่อน นักร้องจากค่ายแกรมมี่แกรนด์ ทั้ง 7 คนประกอบด้วย ใหม่-แอม-อุ๊-มาช่า-นิโคล-นัท มีเรีย และตอง ออกอัลบั้มพิเศษ "SEVEN" มีเพลง"ดอกไม้กับแจกัน" ที่ใหม่ร้องเดี่ยว
ปี 2545 เธอได้ออกผลงานเพลงชุดที่ 7 "คนเดียวในหัวใจ" เปิดตัวด้วยเพลง"เรื่องของเธอ" เพลงเร็ว หนักด้วยดนตรีร็อก
ปี 2546-47 เธอมีอัลบั้มพิเศษ"พุ่มพวงในดวงใจ" ที่รวบรวมเพลงที่ดีที่สุดของ "พุ่มพวง ดวงจันทร์-ราชินีลูกทุ่ง" มาร้องและเรียบเรียงใหม่ทั้งหมด โดยได้โปรดิวเซอร์ 9 คน มาดูช่วยแลผลงานเพลงชุดนี้ เช่น วรฤทธิ์ เล่ห์วิสุทธิ์, ชนชิต จรรย์สืบศรี, พิเชษฐ์ เครือวัลย์, วุฒิไกร อิ่มเจริญ, อดิศร ปานสมบัติ, สมคิด ประดิษฐ์ฝัน, อภิสิษฏ์ ณ ตะกั่วทุ่ง, บุญฤทธิ์ สุขเสรีทรัพย์ และกรรณศิริ อาญาเมือง แนวดนตรีผสมผสานหลากหลายทั้ง ร็อก ละติน อะคูสติก ฯลฯ
ปี 2548 "ใหม่" เธอพักงานแสดงชั่วคราว แล้วกลับมาร้องเพลงให้ทุกคนได้ฟังกันอีกครั้ง ในอัลบั้มพิเศษ "Then And Now" ในปี 2549 หลังจากห่างหายไปถึง 4 ปี นับจากอัลบั้มเดี่ยวชุดล่าสุด ใน Always ใหม่เสมอ" ที่ "ใหม่" ทุ่มสุดตัว เพราะเธอได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการทำงาน และเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง กับโปรดิวเซอร์ อภิไชย เย็นพูนสุข ซึ่งเคยโปรดิวซ์ให้ตั้งแต่อัลบั้ม ไม้ม้วน, ไม้ขีดไฟ, ความลับสุดขอบฟ้า และ ผีเสื้อกับพายุ และเป็นผู้ดูแลคำร้อง-เนื้อหาของเพลงในอัลบั้มนี้ด้วย
ปี 2552 เธอได้ร่วมงานกับ คริสติน่า อากีล่าร์ พร้อมกับคอนเสิร์ตใหญ่ในชื่อ MAI-TINA BEAUTY ON THE BEAT CONCERT อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 นี้


ผลงาน ภาพยนตร์
ขอแค่คิดถึง พ.ศ. 2527
ดั่งเม็ดทราย พ.ศ. 2528
รักนี้เราจอง พ.ศ. 2528
ผัวเชลย พ.ศ. 2528
ไอ้หนูภูธร พ.ศ. 2528
ร้อยป่า พ.ศ. 2529
ฝันที่เป็นจริง พ.ศ. 2528
เปิดโลกมหาสนุก พ.ศ. 2528
พยาบาลที่รัก พ.ศ. 2528
วันแห่งความรัก พ.ศ. 2529
ดวงยิหวา พ.ศ. 2529
วัยร็อคเพลงร้อน พ.ศ. 2529
นางนวล พ.ศ. 2530
เรือมนุษย์ พ.ศ. 2531
สุริโยไท พ.ศ. 2544
เมมโมรี่ รักหลอน พ.ศ. 2551
เชือดก่อนชิม พ.ศ. 2552
ละคร
อีพริ้ง คนเริงเมือง พ.ศ. 2531(ช่อง 3:13 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2531)
ผู้หญิงแถวหน้า พ.ศ. 2533(ช่อง 7:13 มิถุนายน - 22 สิงหาคม 2533)
วังน้ำวน พ.ศ. 2535
แผ่นดินของเรา พ.ศ. 2539
คนเริงเมือง พ.ศ. 2545
ปมรักนวลฉวี พ.ศ. 2546
ละครเวที
ไร่แสนสุข พ.ศ. 2529
บ้าก็บ้าวะ พ.ศ. 2530
สตูดิโออัลบั้ม
ปี 2532 อัลบั้ม ไม้ม้วน
ปี 2533 อัลบั้ม ไม้ขีดไฟ
ปี 2535 อัลบั้ม ความลับสุดขอบฟ้า > ยอดขายเกินล้านตลับ และเป็นนักร้องหญิงไทยคนแรกที่ขายเทปได้ทะลุ 2 ล้านตลับ
ปี 2537 อัลบั้ม ผีเสื้อกับพายุ
ปี 2540 อัลบั้ม ชีวิตใหม่
ปี 2541 อัลบั้ม แผลงฤทธิ์ > ยอดขายเกินล้านตลับ
ปี 2545 อัลบั้ม คนเดียวในหัวใจ
ปี 2549 อัลบั้ม Alway ใหม่เสมอ
อัลบั้มพิเศษ
ปี 2536 อัลบั้ม 10 ปี แกรมมี่
ปี 2538 อัลบั้ม ขนนกกับดอกไม้
ปี 2538 อัลบั้ม Rock Zone
ปี 2543 อัลบั้ม Rock For Life
ปี 2543 อัลบั้ม "ลงเอย" พี่น้องร้องเพลง อัสนี-วสันต์
ปี 2544 อัลบั้ม Seven
ปี 2546 อัลบั้ม Mai Blue Album / อัลบั้ม Mai Red Album
ปี 2546 อัลบั้ม พุ่มพวงในดวงใจ 1 - 2
ปี 2547 อัลบั้ม พุ่มพวงในดวงใจ 3-4
ปี 2548 อัลบั้ม Then & Now 1-2
ปี 2551 อัลบั้ม Sleepless Society 3 By Narongwit One Night Stand
ปี 2551 อัลบั้ม Mai sings Asanee
รางวัลที่ได้รับ
ปี พ.ศ. 2528 ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ตุ๊กตาทองพระสุรัสวดี จากภาพยนตร์เรื่อง "ดวงยิหวา"
ปี พ.ศ. 2530 ได้รับรางวัลพิเศษ “ดาราทอง” ฝ่ายหญิง
ปี พ.ศ. 2532 ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม สีสัน อะวอร์ดส์ จากอัลบั้ม "ไม้ม้วน"
ปี พ.ศ. 2532 ได้รับรางวัลนักร้องยอดนิยม สตาร์มิวสิคอะวอร์ด จากอัลบั้ม "ไม้ม้วน"
ปี พ.ศ. 2532 ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 9 สาวเปรียวประจำปี
ปี พ.ศ. 2541 ได้รับรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม สีสัน อะวอร์ดส์ จากอัลบั้ม "แผลงฤทธิ์"
ปี พ.ศ. 2545 เข้าชิงรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม สีสัน อะวอร์ดส์ จากอัลบั้ม "คนเดียวในหัวใจ"
ปี พ.ศ. 2552 ได้รับรางวัลผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สาขา ภาพยนตร์ สตาร์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ อวอร์ด ครั้งที่ 7(2551) จากภาพยนตร์เรื่อง เมมโมรี่ รักหลอน